จงยืนอยู่บนความหวัง แต่อย่าแบกความหวัง
จงยืนอยู่บนความหวัง แต่อย่าแบกความหวัง
สิ่งที่พี่ได้ยินช่วงนี้บ่อยที่สุด ซึ่งเป็นช่วงโค้งสุดท้ายก่อนจะสอบตรงของพวกมหาลัยหลักๆของประเทศที่มีเด็กจำนวนมากอยากเข้าไปเรียน ก็คือ “พี่คิดว่าผม(หนู)จะติดมั้ย” ซึ่งพี่เองก็เข้าใจเป็นอย่างยิ่งว่า น้องหลายคนตอนนี้ก็อยากได้คำตอบจากพี่ๆเพื่อให้เกิดความสบายใจสูงสุด
เพื่อที่จะได้มั่นใจและตั้งใจอ่านหนังสือสอบต่อไป คล้ายๆกับว่ากลุ้มใจแล้วเข้าไปหาหมอดูอะไรประมาณนั้น
ขอบอกว่าเป็นคำถามที่สามารถตอบไปทีได้อย่างง่ายดายครับ ก็แค่บอกว่าติดแน่นอน แล้วน้องๆก็จะสามารถเข้าไปสอบได้อย่างสบายใจ
เคยคิดในใจเหมือนกันว่า อยากจะตอบแบบนั้นดู แต่พอมาคิดอีกที พี่ก็ว่าน้องที่ถามมาก็คงจะไม่ได้อยากให้พี่ตอบส่งๆไปอย่างนั้นแน่นอน คือ พี่อยากจะบอกว่า ไม่รู้ว่าเป็นอะไรนะ การที่เราเตรียมความพร้อมในการอ่านหนังสือมามากกว่าชาวบ้าน แทนที่เราจะมีความมั่นใจมากกว่า
มันแปลกที่พี่เห็นมาทุกปีครับว่า ความกดดันของน้องเหล่านั้นก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้นกว่าคนที่เตรียมความพร้อมน้อยกว่าทั่วไป
พี่คิดว่า เหตุผลต่างๆน่าจะมาจาก การที่เราเตรียมความพร้อมมามากกว่า แน่นอน มันทำให้เรามีความหวังในการที่ต้องสอบให้ติดมากกว่าชาวบ้านที่
เค้าไม่ได้เตรียมความพร้อมมาอย่างเรา นั่นล่ะๆ น้องหลายคนที่อ่านอยู่ พอมันมี
เค้าไม่ได้เตรียมความพร้อมมาอย่างเรา นั่นล่ะๆ น้องหลายคนที่อ่านอยู่ พอมันมี
“ความความหวังที่มาพร้อมกับความคาดหวัง”
เท่านั้นแหละครับ ทำให้เราเครียดกว่าชาวบ้าน
โดยปกติน้องๆหลายคนอาจจะไม่อยากให้สภาพแบบนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง ไม่ว่าเวลาไหน เพราะนั่นคือความกดดันก้อนใหญ่ที่เข้ามาเพิ่มความหดหู่ให้กับชีวิต
แต่พี่เองกลับมองในมุมตรงข้ามนะ เพราะพี่คิดว่า ในชีวิตของคนที่ตั้งใจหรือทำอะไรก็ตามที่มีสภาวะการแข่งขันเข้ามาแล้ว มันจะเป็นตัวที่สร้างความต้านทานให้กับน้องในอนาคต ซึ่งพี่คิดว่า เป็นภูมิที่ดีอย่างหนึ่งเลยครับ
น้องที่มีโอกาสได้เรียนหนังสือ ไม่ต้องอยู่ในสภาพชีวิตที่ต้องดิ้นรนอะไร ภูมิต้านทานในชีวิตจะค่อนข้างน้อยมาก เจออะไรนิดอะไรหน่อย ความอดทนจะต่ำกว่าคนในยุคก่อนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด และแน่นอนครับ ยิ่งที่บ้านมีทุกอย่างให้พร้อมมากเท่าไหร่ ยิ่งความอดทนน้อยลงเท่านั้น
ซึ่งถ้าน้องอ่านแล้วสัมผัสได้ว่าตัวเองอยู่ในข่ายนี้อยู่เหมือนกัน ทางแก้เพื่อปรับทุกอย่างให้ดีขึ้นมาคือ การที่น้องต้องมีความนิ่งมากขึ้น
ใจเย็นๆเยอะๆ ลองทำอะไรให้ช้าลงบ้าง แล้วอารมณ์จะค่อยๆปรับสู่การแก้ปัญหาได้ครับ
มีคำปรึกษาหนึ่งที่พี่เคยให้กับน้องที่เครียดก่อนที่จะเข้าสอบหรือประกาศผลว่า
“จงยืนอยู่บนความหวัง แต่อย่าแบกความหวัง”
เพราะการแบกความหวังทุกอย่างอยู่บนตัวเรา แบกความหวังจากคนรอบข้างตัวเรา แบกสายตาของคนที่อยู่รอบข้างตัวเรา ซึ่งเราคิดไปเองว่า คนพวกนั้น เค้าจ้องมองน้องอยู่อย่างตาไม่กระพริบ ว่าผลที่ออกมามันจะเป็นยังไง ถ้าน้องรู้สึกอย่างนั้น น้องกำลังจะแบกทุกอย่างไว้ แล้วมันจะหนัก
มันจะเหนื่อย แล้วยิ่งถ้าท้ายที่สุด ผลที่ออกมาไม่เป็นใจ เราจะถูกความหวังเหล่านั้นล้มทับจนไม่รู้ว่าจะลุกยังไง
มันจะเหนื่อย แล้วยิ่งถ้าท้ายที่สุด ผลที่ออกมาไม่เป็นใจ เราจะถูกความหวังเหล่านั้นล้มทับจนไม่รู้ว่าจะลุกยังไง
พี่อยากให้น้องได้ยืนอยู่บนความหวังจะดีกว่า เพราะมันจะดูตื่นเต้น และท้าทายให้เราพัฒนาตัวเองและก้าวต่อไปข้างหน้า
ด้วยความหวังที่เราจะต้องเก่ง และมีคุณสมบัติที่ทุกคนรอบข้างเรารู้สึกดีกับความตั้งใจของเรา เพราะไม่ว่าผลที่ออกมาจะเป็นอย่างไร
ความหวังก็จะไม่มีวันล้มมาทับเราให้เราเจ็บ แต่จะเป็นเหมือนนุ่นที่คอยรองรับเราเวลาเราล้ม เพื่อให้เรารู้ว่า ตราบใดที่เรายังยืนอยู่บนความหวัง
เราก็จะเดินก้าวไปข้างหน้าต่อไปได้เสมอ
เราก็จะเดินก้าวไปข้างหน้าต่อไปได้เสมอ
พี่นัน นันทวัชร์ ชัยมโนนาถ
www.alepaint.com
https://www.facebook.com/alepaint.nun
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น