หนังสือ YES NO OK
ตอบคำถามความถนัดทางสถาปัตยกรรม 
       เขียนโดย : นันทวัชร์ ชัยมโนนาถ
                     เอกรัตน์ วรินทรา 

ถ้ามองจากชื่อหนังสือแบบผ่านๆ หนังสือเล่มนี้อาจเกิดขึ้นจากการตอบคำถามในสิ่งที่น้องถามมา ซึ่งเป็นคำถามที่เกี่ยวข้องกับการสอบวิชาเกี่ยวกับการออกแบบโดยเน้นไปที่สาขาสถาปัตยกรรมศาสตร์ แต่ลึกๆแล้ว มันมีอะไรที่มากกว่านั้น 

พี่เองยอมรับว่าจุดเริ่มต้นคือ คำถามจากน้องๆที่ถามเข้ามาบ่อย คนแรกผ่านไป คนที่สองไม่นานก็ถามคำถามประเภทนี้มาในรูปแบบเดิมๆ จนพี่มีความรู้สึกว่า น่าจะมีหนังสือสักเล่มที่สามารถเป็นตัวแทนของพี่เองในการตอบคำถามเหล่านี้ 



ในช่วงของการเขียนจดหมายตอบคำถามช่วงแรกๆนั้น พี่เองยอมรับเลยว่า เคยตอบแบบทั้งสั้นและยาว ซึ่งในส่วนที่สั้นบางทีอาจจะหลงลืมเนื้อหาที่สำคัญ จนน้องหลายคนต้องถามคำถามเข้ามาใหม่อีกครั้งในเชิงที่ลึกขึ้น เพื่อที่จะได้คำตอบที่ชัดเจนในจุดที่เขาอยากจะได้ หลังจากนั้น คำถามก็เข้ามาเรื่อยๆ จนพี่มีความรู้สึกว่า น่าจะมีหนังสือซักเล่ม ที่เป็นตัวแทนของพี่ เป็นตัวแทนที่จะได้ไปอยู่กับน้องในหลายๆที่ เป็นหนังสือซักเล่มที่อ่านแล้วสนุก สบายใจ ค่อยๆตอบคำถามไป และที่สำคัญ พี่เองพยายามใส่แง่มุมที่พี่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับน้องๆเข้าไปด้วย 



ลักษณะการตอบคำถามนี้ พี่ต้องบอกเลยครับว่า เป็นสิ่งที่มาจากประสบการณ์ล้วนๆแล้วเอามาถ่ายทอดต่อในทัศนคติที่พี่คิดว่ามันน่าจะดีต่อตัวน้องครับ หลายคนที่คิดว่าพี่จะเชียร์วงการใดวงการหนึ่งอย่างเต็มที่ อันนี้ไม่ต้องกลัวเลยนะครับ พี่จะตอบอย่างเป็นกลางที่สุด ไม่ได้เชียร์หรือหลอกเพื่อให้น้องเกิดความรู้สึกที่ดีหรือว่าไม่ดีเกินเหตุกับอาชีพอื่น หรือทางที่เป็นอุปสรรคที่น้องจะเดินไปข้างหน้า 



พี่จำได้ว่าช่วงเวลาที่พี่เป็นเด็ก ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่กำลังจะเลือกเส้นทางเดินว่าเราจะเรียนไปในทางไหนดี พี่พยายามจะหาหนังสือหรือว่าใครซักคนที่ตอบคำถามหลายๆอย่างที่พี่ต้องการ ซึ่งคนตอบเองต้องมีความเป็นกลางและใจเย็นอยู่พอสมควร หลายคำถามอาจจะดูเหมือนว่าถามมาทำไม น่าจะรู้อยู่แล้ว แต่พี่เองเข้าใจครับ เข้าใจน้องว่า บางคำถามเรารู้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเราก็ต้องการคำยืนยันเพื่อให้เรามั่นใจในการเดินมากขึ้นเท่านั้นเอง 

พี่อยู่ในยุคที่ถูกปลูกฝังว่าถ้าอยากรู้อะไรเรื่องของการเรียนต่อ มีอะไรก็ไปปรึกษาครูแนะแนวสิ” 



ประโยคนี้เป็นประโยคที่นักเรียนในยุคพี่ชินชา (จริงๆแล้วหลายโรงเรียนปัจจุบันนี้ก็น่าจะมีอารมณ์ที่เป็นอย่างนี้อยู่เหมือนกัน) คือ เวลาที่เราไปปรึกษาอะไร ครูเหล่านั้นจะสนับสนุนเราไปในทางเชิงต่างๆที่พี่มีความรู้สึกว่า เค้ายังไม่ได้ตอบคำถามที่พี่ต้องการได้อย่างชัดเจน 

ยกตัวอย่างเช่น มีน้องบางคน ไปปรึกษาครูแนะแนวที่โรงเรียน ว่า อยากจะเรียนคณะที่เกี่ยวกับการออกแบบ โดยต้องเรียนวาดรูปอะไรทำนองนั้น เค้าแค่อยากจะรู้ว่า เลือกเรียนแล้วจะดีมั้ย อนาคตเค้าทำอะไรกันบ้างในวิชาชีพนี้ เป็นอาชีพที่เสี่ยงหรือเปล่า 



คำตอบที่มักจะได้ก็มักจะเป็นในเชิงของ ความตรงไปตรงมา ถ้าจะเรียนอาชีพที่มีความมั่นคง ต้องไปเรียนบัญชี หมอ วิศวะหรือว่าทนายความจะดีกว่านะ เพราะพวกนั้นจบมามีงานรองรับที่มั่นคง อะไรประมาณนั้น ส่วนเรื่องของการเลือกเรียนสาขาที่เกี่ยวกับงานออกแบบนั้น เป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงมากๆ เพราะว่าทำงานหนัก เงินน้อย แล้วก็ไม่มีงานสม่ำเสมอที่แน่นอน บางทีการเลือกเรียนในสิ่งที่รัก มันอาจจะไม่ได้ดีอย่างที่เราคิดเสมอไปนะ 



แล้วน้องก็วิ่งเข้ามาเขียนจดหมายปรึกษาพี่ต่อครับว่า มันเป็นจริงอย่างนั้นหรือเปล่า เพราะจะกลับไปถามพ่อแม่ อันนี้เรียกได้ว่าแทบจะเลิกคิดไปเลยครับ จากที่พี่สอนมา พี่เองยอมรับว่ามีพ่อแม่น้อยคนมาก ที่จะเข้าใจถึงว่า เราเรียนแล้วจบไปต้องไปทำอะไร เห็นแต่ว่าวันๆวาดรูปไปเรื่อยๆ แล้วอย่างนั้นสุดท้าย จะเอาอะไรกินในอนาคต 

การตอบคำถามในรูปแบบมิติเดียว ทำให้ความเข้าใจมันดูแล้ว ไม่เกิดประโยชน์ต่อเด็กที่สนใจอยากเรียนอะไรที่แตกต่างออกไปน่ะครับ พี่ว่าจริงๆแล้ว ไม่มีฝ่ายไหนผิดเลย ครูแนะแนวมีหน้าที่ให้สิ่งที่เค้าคิดว่าดีที่สุดแล้วแก่เด็ก แต่แน่นอนครับ ครูแนะแนวไม่ได้เคยมีอาชีพหมอ หรือว่าอาชีพนักออกแบบที่ทำงานจริงๆ หรือแม้แต่ว่าเรียนคณะที่เกี่ยวกับการออกแบบจริงๆเลย ทำให้ความรู้ที่เค้าให้เป็นความรู้ในเชิงกว้างๆเท่านั้น 



สิ่งเหล่านี้เอง จุดประกายความรู้สึกให้พี่ว่า คงต้องถึงเวลาแล้วล่ะที่จะต้องทำหน้าที่ ทำความเข้าใจ ที่จะตอบคำถามให้เห็นจริงๆว่าแง่มุมอีกหลายมิติที่น้องยังไม่รู้นั้นมีอะไรบ้าง การตอบต้องไม่ใช่การโน้มน้าวขนาดนั้น แต่เป็นการเพิ่มทางเลือกให้น้องได้นำสิ่งที่พี่ให้ แล้วเอาไปวิเคราะห์ต่อจนเกิดเป็นความมั่นใจในทางเลือกของตัวเองครับ เอาเป็นว่า ขอทำหน้าที่เป็นพี่แนะแนวเพื่อให้เกิดประโยชน์อีกทางหนึ่งละกันนะครับ 

เมื่อประมาณ 6-7 ปีที่แล้ว พี่ได้เคยเขียนหนังสือเล่มหนึ่งที่ชื่อว่า 

คำถามยอดฮิต ความถนัดทางสถาปัตยกรรม” 



เอาไว้ โดยหนังสือเล่มนั้น จะเป็นลักษณะการตอบเนื้อหาคล้ายกับเล่มนี้อยู่เหมือนกัน เพียงแต่ว่า เล่มนี้จะมีมิติทางการตอบคำถามที่มากกว่า และรูปภาพที่พี่จะแทรกเข้ามาตลอดเวลาที่พี่พูด เพื่อให้อ่านแล้วมีจุกพักผ่อนสายตา ใช้จินตการอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งรูปประกอบที่อยู่ในหนังสือเล่มนี้ ก็น่าจะมีประโยชน์กับน้องๆหลายคนในการนำไปฝึกวาดได้อีกด้วยครับ 
 
สุดท้ายนี้ คำถามในโลกนี้หรือว่าในวงการวิชาชีพของการออกแบบยังคงดำเนินต่อไป คำถามต้องเพิ่มมากขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน ตราบใดที่เรายังไม่หยุดหายใจและพัฒนาความคิดให้เกิดสิ่งใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา ถ้าระหว่างที่น้องอ่านหนังสือเล่มนี้ แล้วเกิดมีสิ่งที่น้องไม่เข้าใจ และอยากจะถามพี่เพื่อให้ได้คำตอบที่ชัดเจนมากขึ้น ก็สามารถถามเข้ามาหาพี่ได้สองทางครับ ทางแรกคือ 



nuntawat_design@hotmail.com หรือทางที่สองคือ น้องสามารถทิ้งคำถามไว้ได้ที่ www.alepaint.com จะเป็น Web ที่มีส่วนของการตอบคำถามเหล่านี้โดยเฉพาะเลย สามารถทิ้งคำถามไว้ได้เลยครับ แล้วพี่เองจะเป็นคนที่ไปตอบด้วยตัวเองครับ หรือถ้ายังไม่จุใจต้องการจะคุยกับแบบสดๆเลย น้องสามารถมาทิ้งคำถามได้ที่ Facebook ของพี่ครับ 



ในส่วนของ Facebook นั้น แค่ค้นหาคำว่านันทวัชร์ ชัยมโนนาถแค่นั้นก็จะเจอพี่แล้วครับ อ่านหนังสือไปด้วย มีอะไรข้องใจเพิ่มเติมก็สามารถถามเข้ามาได้ทุกทางครับ หรือตาม Link ข้างล่างนี้ได้เลยครับ 



ลักษณะของสังคมไทยโดยส่วนใหญ่แล้ว เรากลัวที่จะตั้งคำถามในการเรียนรู้ ในสิ่งที่เราข้องใจ เพราะเราอาจจะมีพื้นฐานมาจากสังคมที่ต้องนอบน้อมในสิ่งที่ผู้ใหญ่พูด บางทีก็เป็นดาบสองคมเหมือนกันครับ 



พี่อยากจะบอกว่าถามมาเถอะครับ” 
พี่ถือคติ

คนที่ไม่มีคำถามอะไรเลย คือคนที่ไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย” 
อยากรู้อะไรต้องกล้าถาม 

ขอให้หนังสือเล่มนี้เกิดประโยชน์กับชีวิตในอนาคตของน้องที่อ่าน แม้เพียงเศษเสี้ยวของชีวิตพี่ก็จะภูมิใจมากมายครับ  ขอบคุณครับ 






ส่วนคำถามที่มีอยู่ในเล่มก็มีดังนี้ครับ 

ฉบับที่ 01 : ท้อแท้และสับสนมากๆ 

ฉบับที่ 02 : หนูอยากเป็นสถาปนิก แต่แม่หนูอยากให้เป็นพวกหมอ

ฉบับที่ 03 : พี่นันค่ะ ถ้าดรอปแล้วไปสอบตรงถาปัตย์ใหม่นี่ คิดว่า มันจะดีไหมค่ะ

ฉบับที่ 04 : หนูจะหาแรงบันดาลใจได้จากอะไร อย่างไร วานพี่ช่วยตอบทีนะคะ

ฉบับที่ 05 : กลัวการสอบสัมภาษณ์

ฉบับที่ 06 : อยู่ .6 มุ่งทางสายวิทยาศาสตร์มาโดยตลอด จะเตรียมตัวทันมั้ย 

ฉบับที่ 07 : กลัวฟิสิกส์ในมหาลัย 

ฉบับที่ 08 : วาดคนไม่ได้และมอง Isometric ไม่ออกเลย 

ฉบับที่ 09 : ถ้าเกรดเฉลี่ยไม่ดี ไม่ถึง2.5 จริงๆแล้วหนูเหมาะท่ีจะเรียนคณะสถาปัตย์หรือเปล่าคะ 



ฉบับที่ 10 : เห็นปัจจุบันมีคนที่เรียนจบทางด้านนี้แล้วเดินทางออกไปทำงานที่เมืองนอกเต็มไปหมด

ฉบับที่ 11 พี่ค่ะคือหนูเป็นคนชอบแบบพวกของใช้ในบ้านพวกที่ มันแปลกๆแบบเตียงทำเป็นตู้เสื้อผ้าได้ หนูสงสัยว่าที่หนูชอบพวกเนี่ยมันใช่เกี่ยวกับสถาปัตย์มั้ย

ฉบับที่12 : ถ้าจะเข้า ต้องเรียนพิเศษเกี่ยวกับการวาดรูปโดยเฉพาะถึงจะสามารถสอบได้ไหม

ฉบับที่ 13 พี่ค่ะตอนนี้อยู่มอ.6แล้ว อยากเข้าออกแบบภายใน

ฉบับที่ 14 คือตอนนี้เรียนสายศิลป์ ไม่รู้ใจตัวเองเลยว่าชอบ สถาปัตย์ หรือ มัณฑนศิลป์ กันแน่

ฉบับที่ 15 หนูลังเล ไม่รู้ว่าอยากเรียนอะไร ไม่รู้ว่าหนูชอบสถาปัตย์จริงๆหรือแค่ชอบวาดรูปกันแน่

ฉบับที่ 16 พี่คะหนูเรียนสายศิลป์คํานวณค่ะหนูอยากเข้าคณะสถาปัตย์มาก แต่ไม่แน่ใจว่าจะเลือกสาขาใหน

ฉบับที่ 17 พี่คะ คือหนูเรียนสายอาชีพคณะศิลปกรรมอ่ะค่ะ เอกคอมกราฟไว้ หนูชอบวาดรูปมากๆเลย แต่หนูไม่ค่อยเก่งคณิต แล้วหนูจะไปรอดมั้ยคะ 



ฉบับที่ 18 พี่ครับ ในงานสถาปัตย์ ต้องใช้สี copic กี่สีครับ จำเป็นมั้ยครับว่าต้องมีสีเยอะๆ

ฉบับที่ 19 อยากรู้ว่าสถาปัตย์ออกแบบภายในกับสถาปัตย์หลักอันไหนเรียนยากกว่ากันคะ

ฉบับที่ 20 พี่ค่ะ คือหนูเพึ่งรู้ตัวว่าอยากเรียนสถาปัตย์ค่ะ อยากเรียนPRODUCT แต่ว่าตอนนี้หนูอยู่ม.6แล้วก็เรียนสายศิลป์-ภาษา

ฉบับที่ 21 : อยากรู้ว่า คณะสถาปัตย์ กับคณะศิลปกรรมศาสตร์ มันแตกต่างกันยังไงหรอครับ

ฉบับที่ 22 ดวงตกก่อนเข้าสอบสัมภาษณ์ 

ฉบับที่23 : ออกแบบผลิตภัณฑ์นี่เป็นพวกออกแบบยังไงอะคะ มันไม่เหมือนออกแบบภายในใช้มั๊ยคะ?

ฉบับที่ 24 : อยากได้มุมมองใหม่ๆ เวลาวาดตีบ วาดกี่ที ก็เหมือนเดิม

ฉบับที่ 25 : การบนก่อนสอบ 

ฉบับที่26 : วัฒนธรรมแปลกๆทางออกของวัยรุ่นที่กำลังจะสอบ เมื่ออยู่ในคราวที่ไม่สบายใจ

ฉบับที่ 27 : บรรยากาศการสัมภาษณ์แบบกวนๆ

ฉบับที่ 28 : ตอนนี้อยู่ม.4 เมื่อก่อนเคยคิดอยากจะเรียนด้านภาษาแต่ทางครอบครัวไม่อนุญาต


ฉบับที่ 29 : ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าตัวเองอยากเรียนคณะอะไร แต่เท่าที่ดูมาหลายคณะรู้สึกอยากเข้าคณะสถาปัตย์มากว่าคณะอื่นๆ แต่คณิตกับฟิสิกส์ไม่เก่ง

ฉบับที่30 : มนุษย์ผู้ไม่กล้าจับเวลา 

ฉบับที่31 : คือตอนนี้อยู่ม.4และมีความสนใจเกี่ยวกับสถาปัตย์คะ แต่เป็นคนมือไม่นิ่ง วาดทั้งสองข้างไม่เท่ากันเลยค่ะ

ฉบับที่32 : พี่ครับ ผมอยากถามเรื่องการออกเเบบรถ หรือ นักพวกดีไซน์รถครับ ตอนนี้ผมเรียนอยู่ชั้น . 3 ครับ

ฉบับที่33 : หนูซื้อหนังสือของพี่มาอ่าน แต่หนูวาดรูปไม่เก่ง หนูอ่านแต่ทฤษี ตอนนี้หนูอยู่ 6 แล้ว หนูต้องทำไงดีคะ

ฉบับที่34 : ขอเพียงแค่กำลังใจ 

ฉบับที่35 : คือหนูชอบวาดรูปนะคะแล้วก็อยากเรียนสถาปัตย์ แต่บางครั้งรู้สึกเครียดมากๆเลย แล้วก็ไม่มีความสุขด้วยเวลาวาดรูปเพราะคิดงานไม่ออก

ฉบับที่36 : เรียนสถาปัตย์นี่ไม่ค่อยได้นอนจริงหรือเปล่า 

ฉบับที่37  : รุ่นพี่ที่เรียนสถาปัตย์บอกว่า เรียนคณะนี้แล้วจบมางานหนักและเงินน้อย อย่าเรียนเลย จริงหรือเปล่าครับ

ฉบับที่38  : เรียนจบมา สน. หรือ สถ. ถ้าไม่ออกแบบบ้านจะเป็นอะไรได้อีก

ฉบับที่39 : ข้อสอบตรง ของความถนัดส่วนใหญ่จะออกแนวไหนครับ

ฉบับที่40  : การมองภาพสลับไปสลับมาจาก สองมิติ เป็นสามมิติ มีความสำคัญสำหรับนักออกแบบขนาดนั้นเลยเหรอ 

ฉบับที่41 : ถ้าไปทำงานแล้วทำไม่ได้หนูจะเสียเวลาเรียนไปเปล่าๆรึเปล่า

ฉบับที่ 42 : หนูสายศิลป์คำนวณ อยากเข้าสถาปัตย์หลัก เข้าได้ไหมค่ะ

ฉบับที่ 43 : ทุกอย่างอยู่ที่ความตั้งใจ

ฉบับที่ 44 : อยากเข้าสถาปัตย์มากเลยค่ะ ตอนนี้อยู่ม.6 แล้ว วาดรูปยังไถไปไถมาไม่เวิร์คอยู่เลยทำไงดีค่ะ

ฉบับที่ 45 : พี่ครับ ผมกำลังเตรียมสอบโครต้า มจพ. ครับ เขาให้สอบสัมภาษณ์พร้อม portfolio ไม่ต่ำกว่า15 ผลงาน ผมไม่รู้จะเตรียมตัวยังไงครับ ฝีมือผมก็กลางๆ

ฉบับที่ 46 : คือ หนูไม่มีพื้นฐานวาดรูปเลย แล้วหนูก็ยังไม่แน่ใจว่าหนูอยากเรียนสถาปัตย์จริงไหม

ฉบับที่ 47 : สวัสดีค่ะพี่ คือ หนูอยากเรียนสถาปัตย์มาก แต่ฐานะที่บ้านไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก พ่อกับแม่บอกว่า อาชีพนี้มันไม่มั่นคง

ฉบับที่ 48 : สวัสดีคะพี่นันทวัชร์ หนูขอปรึกษาเรื่องสายงาน ตอนนี้สายที่หนูเรียนเป็นสาย 3d visual คืออยู่มหาลัยปี 3 แล้ว แต่หนูมีความสนใจในด้านการออกแบบภายในกับสถาปัตย์ หนูจะไปต่อในสายงานนั้นได้บ้างมั้ยคะ

ฉบับที่ 49 : อยากเข้าออกแบบภายในค่ะ ถ้าติวแบบมัณฑศิลป์ออกแบบภายในมาจะสามารถสอบถาปัตย์ภายในได้ไหมคะ ไม่แน่ว่าข้อสอบแนวเดียวกันไหมอ่ะคะ

ฉบับที่ 50 : พี่ครับผมมีขอสงสัยเกี่ยวกับการสอบรับตรงน่ะครับ ถ้าเกรดเราไม่ถึง3 ยังพอมีสิทธ์สอบรับจุฬามัยครับ

ฉบับที่ 51 : ข้อสอบถาปัตย์ภายในกับหลักเหมือนกันไหมคะ เพื่อนบอกว่ามันเหมือนกันแค่เราเลือกตัวไหนเป็นอันดับหนึ่งเท่านั้นเอง

ฉบับที่ 52 : อยากรู้เรื่อง สนเทศสามมิติ ของลาดกระบังอ่ะค่ะ เรียนเกี่ยวกับอะไร สอบเข้ายากไหมคะ

ฉบับที่ 53 : ถ้าเรียนปวช.จะสามารถสอบเข้าสถาปตย์ได้ไมค่ะเพราะเห็นบ้างทีบอกในตัวสมัครนะค่ะว่าต้องเป็นสายวิทย์นะค่ะ

ฉบับที่ 54 : อยากเข้าไอดีจุฬาฯคะ แต่อยากทราบว่า ปัจจุบันไอดีจุฬายังมีออกแบบเรขานิเทศ กราฟฟิก เปิดสอนอยู่มั้ยคะ แล้วถ้าข้อสอบความถนัดของที่จุฬาออกเอง มีเรื่องperspective มั้ยคะ

ฉบับที่ 55 : พี่ครับ ผมสงสัยว่าสถาปัตย์ในแต่ละมหาลัยมีข้อแตกต่างกันอย่างไรครับ 





ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ถามตอบ-ปัญหาสถาปัตย์-พี่ครับ ผมสงสัยว่าสถาปัตย์ในแต่ละมหาลัยมีข้อแตกต่างกันอย่างไรครับ

ความถนัดทางสถาปัตยกรรม (เล่มดำ)